คืนแรก ที่กรุงเทพฯ แดนศิวิไล # My First Night In Bangkok.

in #thai7 years ago

Dear Steemians Friend

DSC02760.jpg

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ Steemians

วันนี้นั่งฟังเพลง "One night in Bangkok" ก็คิดถึง My first night in Bangkok
คืนแรก ในกรุงเทพฯ ของตัวเอง เรานั่งรถเมย์ สาย 75 จาก สถานีรถไฟ - สวนธน
ตอนนั้น ยังไม่รู้เลยว่า จะไปที่ไหน? เห็นป้ายเขียนไว้ว่า สวนธน ก็คิดไปว่าเราคง
จะนอนในสวนนั้นได้ ไม่รู้เลยว่า เขามีเวลาปิด - เปิดด้วย และอีกอย่าง เราก็มีเงิน
เหลือจาก ค่ารถไฟแค่ 52 บาท จำเป็นต้อง ประหยัดให้มากๆ ไม่งั้นไม่รอดแน่ๆ

......จริงๆแล้ว ก็น่าสมน้ำหน้าตัวเองนัก อายุแค่ 14 ปี ปีกกล้า
ขาแข็ง อยากหนี เข้ากรุงเทพฯคนเดียว ก็เป็น อย่างนี้แหล่ะ
สมแล้ว ไม่รู้จัก คิดหน้า คิดหลัง ให้ดีเสียก่อน

......พอรถเมย์ไปถึงกิโล9 เลี้ยวเข้าถนน ประชาอุทิศ เรามองเห็น ทางด่วน
และใต้ทางด่วน ก็มีสนามหญ้า เป็นเหมือน สวนหย่อมเล็กๆ ก็คิดว่า "นี่แหล่ะ
เหมาะที่จะเป็น ที่นอนสำหรับคืนนี้ที่สุดเลย" และแถวนี้ ดูเหมือนว่า จะหางาน
ไม่ยาก เพราะว่า เราเห็นตึกสูงๆ เยอะแยะไปหมด

......ตอนนั้นก็มืดแล้วด้วย ประมาณ 2 - 3 ทุ่ม เห็นจะได้ หิวจนท้องร้องจ๊อกๆเลย
เราจึง ซื้อแค่น้ำ กับขนมปัง กลัวเงินหมด ก่อนที่จะ ได้งานทำ แต่สนามหญ้าใต้
ทางด่วนนี่ เรายอมรับเลยว่า มันนิ่มกว่า พื้นฟากไม้ไผ่ ที่บ้านเราซะอีก...5555

......ปลอบใจตัวเอง ไปงั้นแหล่ะ เรามองไปลอบๆ เห็นคนไร้บ้าน นอนแถวๆนั้น
อีกสี่คน เอาล่ะ อย่างน้อย ก็ยังมีเพื่อน เราพยายามนอน แต่ก็ นอนหลับๆ ตื่นๆ
เพราะความกลัว และ หวาดระแวง ของตัวเอง พอกลางดึก อากาศก็เริ่มเย็นเรา
พยายาม แต่งตัว ให้เหมือนเด็กผู้ชายมากที่สุด


DSC_0447.jpg


......พอใกล้สว่าง เหตุไม่คาดฝัน ก็มาเยือนเรา ตำรวจ สายตรวจ
มาปลุกเรา ทำเอาเรา ตกใจแทบช็อค เขาเอาไฟฉาย ส่องหน้าเรา
แล้วถามว่า "มานอนทำไมตรงนี้เนี่ย?" เอาแล้วตู จะโดนจับมั๊ยเนี่ย?
เขาบอกให้เราลุกขึ้น "หันหลังไป" แล้วตำรวจคนนึง ก็ค้นตัวเรา พอ
ค้นหาอะไรไม่เจอ ก็บอกให้เรา หันหน้ากลับมาหาเขา แล้วก็ถอดหมวก
ของเราออก พอเขาเห็นผมของเรา ก็ผงะ ถอยห่างเรา ไปก้าวนึง แล้วพูดว่า
ตำรวจ "อ้าว! ผู้หญิงนี่หว่า" แล้วเขาก็ลดไฟฉายลงจากหน้าเรา แล้วถามว่า
ตำรวจ "แล้วบ้านอยู่ที่ไหน?"
เรา "อรัญฯค่ะ"
ตำรวจ "มาคนเดียวเหรอ?" เราพยักหน้า
ตำรวจ " กินข้าวรึยัง พวกพี่กำลังจะออกเวร ไปกินข้าวด้วยกันมั๊ย?"
อ้าว เฮ้ย ตำรวจจริง รึเปล่าวะเนี่ย เราคิดในใจ แล้วตอบไปว่า
"ไม่ค่ะ กินอิ่มแล้ว อีกไม่นานเพื่อนก็จะมารับแล้ว" เราโกหก
แล้วตำรวจอีกคน ก็เดินกลับไปรอที่รถ ส่วนคนที่พูดกับเรา
ก็เริ่ม เดินถอยห่าง จากเรา อีกสอง สามก้าว แล้วก็พูดว่า
ตำรวจ " ไม่ไปกินข้าวกับพวกพี่แน่นะ ไม่ต้องเกรงใจ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"
เรา "ไม่ค่ะ ขอบคุณค่ะ" "ไม่ได้เกรงใจ แต่กลัวโว้ย" เราคิดในใจ
แล้วเขาก็เดินไปขึ้นรถ กับเพื่อน เราได้ยินพวกเขาคุยกันว่า
"ทีแรกนึกว่าผู้ชาย"
"แล้วตอนที่มึงค้นตัวเค้า มึงไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ส่วนเว้า ส่วนโค้ง?"
โห แน่ใจนะว่าเป็นตำรวจจริงๆ นินทากัน ระยะเผาขน เลยเหรอ?

ขอบคุณเพื่อนๆทุกคน ที่ติดตามเรื่องราว ของเราเสมอมา
ขอบคุณสำหรับ อัปโหวต + คอมเม้นท์ และกำลังใจที่มีให้กัน
Much Love @tookta



footer tookta (1).png

Sort:  

เก่งจังค่ะ คนที่ผ่านชีวิตช่วงนั้นมาได้จะต้องเป็นคนที่เก่งมาก ๆ 👍👍

ขอบคุณนะคะ สำหรับคอมเม้นท์......ใช่เลยความลำบากทำให้เรียนรู้ถึงความอดทน และการเอาตัวรอด เพราะการเกิดเป็นผู้หญิง ตัวตนเดียวมันไม่ง่ายเลย หลายครั้งที่เราบอกตัวเองว่า ยอมสู้ตายในวันนี้ ดีกว่าอยู่อย่างอับอายในวันหน้า

ชีวิตพี่ตุ๊กตาลำบากจังเลยครับ แต่ก็สู้ผ่าฟันมาได้ เก่งมากๆเลยครับ 👏🏻👏🏻👍🏻

ขอบคุณค่ะ ทำไงได้ไม่ได้อยู่กับครอบครัวตัวเอง ก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง เป็นกฎของธรรมชาติที่เลี่ยงไม่ได้

โห..ชีวิตลำบากกว่าหนูอีก หนูเข้ากรุงเทพฯ ใหม่ๆ เพื่อสอบเข้ามหาลัย ทำกระเป๋าตังค์หล่นบนรถบัส หมดตัวเลย เงินเพิ่งกดมาก็ไปหมดเลย โชคดีที่นัดให้เพื่อนออกมารับก่อนแล้วล่วงหน้า พอเพื่อนมาถึงเห็นเรายืนร้องไห้ก็ตกใจใหญ่เลย หลังจากนั้นเพื่อนก็พาไปฝากที่บ้านป้าของเพื่อน แกอยู่คนเดียวลำพัง ทำอาชีพรับจ้างซักรีด เราก็ไปอาศัยช่วยเหลืองานบ้านกับงานซักรีด ไปส่งผ้าบ้างถ้าใกล้ๆ ในหมู่บ้านเดียวกัน

หนูยังโชคดีบ้างที่มีเพื่อนคอยให้ความช่วยเหลือ แต่มันยังไม่จบแค่นั้น ก้าวแรกของการเข้าเรียนมหาลัยทรหดสุดๆ เกือบอดตายก็เคยมี แต่ยังคอยมีกัลยาณีมิตรที่ดีคอยช่วยเหลือเมื่อถึงที่สุดแล้ว

หวังว่าตอนนี้พี่คงเจอแต่สิ่งดีๆ นะคะ

ใช่ค่ะคุณโชคดีมากที่มีเพื่อนที่ดี รักษาความสัมพันธ์นั้นไว้ให้ดีนะคะ เพื่อนที่ดีหาไม่ง่ายเลย...เราเคยอดนานที่สุดคือสามวัน นอนฟังท้องบรรเลงเพลงสนุกไปเลย แต่พอได้ยินท้องของน้องร้องนี่สิ มันทนไม่ได้....ตอนนี้ชีวิตเราสบายขึ้นเป็นล้านๆเท่าเลย......ทนลำบากตอนเด็ก แต่สบายตอนแก่ มันจริงนะ ออกจากบ้านมีเงินหนึ่งร้อย แต่กลับมากับหนึ่งล้าน

ใช้ชีวิตแบบสนุกสนานตามใจทุกวัน ทำให้ทุกๆวินาทีของชีวิตได้รับมีความสุขเพิ่มมากๆที่สุดค่ะ
😀💞💫👰👸👪💑👭👪🍓🍒🍉🍍🍇🍅🍄😋🌴🌳

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะคุณ @laddawan

นู๋ก้อเคยเจอค่า.... ตำรวจสายตรวจ....
สงสัยเขาจะมาตรวจจับนักศึกษาที่ชอบเล่นยากับขายยา🐴
ตอนนั้นนู๋ทำงานเคเอฟซี เป็นแคชเชียร์ คือแต่งหน้าสวยตลอด เลิกงานประมาณห้าทุ่มครึ่งทางกลับหอเป็นทางค่อนข้างเปลียวนิดนิดสายตรวจกลุ่มแรก โบกจอดรถ ถามนั่นนุ้นนี้ เปิดใต้เบาะรถ... ราวกับว่า... หน้าตานู๋อ่า..เหมือนคนค้ายาขนาดนั้นเลยหรอ.. 😅 ยังถามอีกนะ พกอาวุธรึป่าวเรา โหยยยถ้าตอบได้อยากตอบยุค่าว่า นุ๋มีหน้าตาเป็นอาวุธคะ. ถุ้ยยย ถามมาได้... หน้าตากรูเหมือนโจรปล้นขนาดนั้นเชียว..
สักพักมีหน้ามาถาม
-จะไปไหนเรา
-กลับหอคะ
-ทำไมมาคนเดียว แฟนไม่มาด้วย(ในใจมันคงอยากถามมีแฟนรึยัง)
-นู๋เลยตอบไปแบบหน้าตาเฉย ว่าแฟนขับรถคนละคัน
-มันตอบสั้นๆอ่อ.. ไปๆๆๆๆ
นุ๋ก้อเลยขับไปแบบงงๆ 😂(ในใจนุ๋ก้อกลัวยุนะ)

เราเคยโดนจับสองครั้ง ข้อหาที่งี่เง่ามาก "ไม่พกพาบัตรประจำตัวประชาชน" คือว่าหาความผิดอื่นไม่ได้ ไอ้เราดันทำบัตรไม่ผ่านกว่าจะมีบัตร อายุ 17 ปี โดนลงหน้าหนึ่งด้วย อนาถใจ

เก่งมากค่ะผ่านมาได้👍❤ อ่านไปลุ้นไป ขอบคุณ กับเรื่องราวชีวิตค่ะ

ขอบคุณเช่นกันค่ะคุณ @sunisa

nice

Thank you.

💓💕💗💖💞❤😚