UNSEEN!! “ภูทอก”สุดยอดสิ่งก่อสร้างจากพลังศรัทธา

in #thai7 years ago (edited)

307007-586a5ad6a7937.jpg

"ภูทอกแหล่งพระธรรม ค่าล้ำยางพารา งามตาแก่งอาฮง บึงโขงหลงเพลินใจ น้ำตกใสเจ็ดสี ประเพณีแข่งเรือ เหนือสุดแดนอีสาน นมัสการหลวงพ่อใหญ่ ศูนย์รวมใจศาลสองนาง"

คำขวัญจังหวัดบึงกาฬ จังหวัดใหม่ล่าสุดของไทยในลำดับที่ 77

บึงกาฬแม้จะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวหลัก แต่จังหวัดนี้ก็มีเสน่ห์ในวิถีอันเรียบง่ายสงบงามของเมืองริมฝั่งโขงให้ค้นหาสำหรับสถานที่สำคัญในลำดับต้นๆของบึงกาฬก็คือ “ภูทอก”ที่เป็นภาษาอีสาน แปลว่า “ภูเขาที่โดดเดี่ยว”

Image (11).jpg

แม้ภูทอกจะเป็นสถานที่สำคัญขึ้นชื่อของบึงกาฬ แต่ปัจจุบันทางวัดยังคงเจตนารมณ์ของพระอาจารย์จวนเอาไว้อย่างเหนียวแน่น นั่นก็คือการติดป้ายประกาศเจตนารมณ์ไว้อย่างชัดเจนว่า

“...วัดภูทอก ท่านพระอาจารย์จวน ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานบำเพ็ญเพียรภาวนา ปฏิบัติธรรม วิปัสสนากัมมัฏฐาน(ใช้ตัวสะกดตามป้ายของวัด) โปรดเยี่ยมชมด้วยความสงบ เคารพสถานที่...”

นอกจากนี้ทางวัดยังเคร่งครัดต่อการเข้าเยี่ยมชม ห้ามส่งเสียงดัง ห้ามขีดเขียนทุกที่-ทุกจุด ห้ามทิ้งขยะบนเขาใครที่นำอะไรขึ้นไปให้นำกลับลงมาด้วย คนที่แต่งกายไม่สุภาพ โดยเฉพาะสุภาพสตรีที่นุ่งน้อยห่มน้อยทางวัดเขาติดป้ายประกาศห้ามขึ้นไปบนยอดภูทอก (เพราะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์) ที่เด็ดไปกว่านั้นคือทางวัดติดป้ายประกาศไว้เด่นชัดบริเวณลานจอดรถว่า

“ถ้านุ่งน้อยห่มน้อย อย่าลงจากรถเด็ดขาด”

299388.jpg

วัดภูทอกเป็นวัดป่าอันร่มรื่น เมื่อเข้ามาในวัดจะเห็นสระน้ำมีจุดนั่งพักชมวิว เบื้องหน้าสระน้ำมองขึ้นไปด้านบนจะเป็นยอดภูทอกตั้งตระหง่านทอดตัวสะท้อนเงาน้ำดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ขณะที่ด้านข้างของสระน้ำเป็นที่ตั้งของ “เจดีย์พิพิธภัณฑ์อัฐ-บริขาร พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ” เป็นเจดีย์ 8 เหลี่ยม สีน้ำตาลแดง ยอดสีทอง ส่วนฐานบริเวณด้านนอกมีงานประติมากรรมภาพนูนต่ำจัดแสดงเรื่องราวอัตชีวิตช่วงเด่นๆของพระอาจารย์จวน ส่วนด้านในมีรูปเคารพของพระอาจารย์จวนขนาดเท่าองค์จริง และจัดแสดงอัฐบริขารในสมัยบำเพ็ญสมณธรรม เรื่องราวบางส่วนของท่าน และบรรจุพระอัฐิธาตุไว้ให้สักการบูชา

like53_byyak08.jpg

ภูทอกมีจุดเด่นที่เป็นไฮไลท์อยู่ที่เส้นทางแห่งศรัทธาที่พระ เณร และชาวบ้าน ได้ร่วมกันสร้างบันไดและสะพานเวียนรอบไหล่ผาไว้ตั้งแต่สมัยพระอาจารย์ก่อตั้งวัด

299394.jpg

เส้นทางแห่งศรัทธามีทั้งหมด 7 ชั้น ก่อสร้างด้วยไม้เป็นหลัก แต่บางช่วงก็นำจุดเด่นของสภาพพื้นที่มาผสมผสาน ไม่ว่าจะเป็น บันไดหินทราย บันไดลอดรูถ้ำ หรือทางเดินใต้เพิงผาถ้ำที่สร้างอิงแอบกับสภาพพื้นที่ไปอย่างกลมกลืน นับเป็นงานวิศวกรรมที่ก่อสร้างด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านอันน่าทึ่งไม่น้อย ถึงขนาดบางคนยกให้ว่านี่คือความ “มหัศจรรย์แห่งภูทอก” กันเลยทีเดียว

299393.jpg

สำหรับเส้นทางแห่งศรัทธาทั้ง 7 ชั้นนั้น ชั้นที่ 1-2 จะเป็นบันไดสูงชัน นำสู่ชั้น 3 ที่เป็นจุดเริ่มของทางเดินรอบเขา มีทางแยก 2 ทางให้เลือกเดิน ทางซ้ายมือเป็นทางลัดไปสู่ชั้นที่ 5 ได้ แต่เป็นทางชันมากผ่านซอกหินผาที่มีลักษณะคล้ายถ้ำน้อยๆ ส่วนทางขวาจะเป็นทางเดินสู่ชั้นที่ 4 ที่มีการทำทางเป็นสะพานไม้เดินเลาะเลียบลอยออกมาจากหน้าผา ชั้นนี้จะเป็นที่พักของแม่ชี สะพานรอบเขามีระยะทางประมาณ 400 เมตร ระหว่างทางมีที่พักเป็นระยะๆ

Image (7).jpg
Image (2).jpg

แต่ถ้าใครเดินไหว อย่าพลาดการขึ้นไปชั้น 5 เพราะถือเป็นชั้นไฮไลท์ที่สำคัญที่สุด ชั้นนี้มีทางเดินรอบ มีทั้งเส้นทางสะพานไม้ที่สร้างยื่นออกไป และทางเดินบนลานดินใต้เพิงผาที่ธรรมชาติกัดเซาะหน้าผาจนเป็นซอกเว้าลึกเข้าไป เป็นเส้นทางเดินที่มีหลังคาธรรมชาติช่วยกันแดดกันฝน

ระหว่างทางเดินรอบเขาบางจุดเป็นที่นั่งปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐาน บางจุดมีกุฏิพระสร้างยื่นออกมาจากเพิงผา และมีหลายช่วงเป็นหน้าผามีชื่อต่างๆ เช่น ผาเทพนิมิต ผาหัวช้าง ผาเทพสถิต เป็นต้น และก็มีหลายช่วงเป็นจุดที่ทางวัดเรียกว่าถ้ำ ไม่ว่าจะเป็น ถ้ำเหล็กไหล ถ้ำแก้ว ถ้ำยอ ถ้ำฤาษี เป็นต้น

00.jpg
299392.jpg
299391.jpg
299399.jpg

นอกจากนี้ยังมีถ้ำพระวิหารเป็นจุดสำคัญ มีลักษณะเป็นเพิงผาที่มีการก่อสร้างเป็นศาลา มีพระพุทธรูปประดิษฐาน พร้อมด้วยรูปเคารพหลวงปู่จวน(พระอาจารย์จวน)ให้กราบไหว้บูชา หน้าปากทางเข้าถ้ำจัดแสดงโครงกระดูกมนุษย์ใส่ตู้โชว์ไว้เพื่อให้ผู้ดูได้ปลงสังขาร อนิจจัง พร้อมบอกตำแหน่งของกระดูกต่างๆด้วยภาษาพื้นบ้านและข้อความเตือนใจ ว่า “...นานไปกลายเป็นฝุ่น สูญสิ้นเป็นดิน โลกนี้อนิจจัง ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา สัพเพ สังขารา ทุกขา, สัพเพ สังขารา อนัตตา คนเราเป็นอย่างนี้...”

Image (4).jpg

บนชั้น 5 ยังมีจุดไฮไลท์อีกแห่งหนึ่ง คือ “พุทธวิหาร” สถานที่ที่มีธรรมชาติอันน่ามหัศจรรย์เป็นก้อนหินแยกตัวมาจากก้อนหินใหญ่ ดูจะตกแหล่ไม่ตกแหล่ คล้ายพระธาตุอินทร์แขวนที่พม่า หรือเขาคิชฌกูฏที่จันทบุรี ปัจจุบันมีการสร้างอาคารไม้เล็กๆ ภายในประดิษฐานรูปเคารพหลวงปู่จวนและพระพุทธรูปองค์เล็กๆให้สักการบูชา พุทธวิหารแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญ มีข้อความที่ทางวัดเขียนไว้ว่า “พุทธวิหารนี้ เป็นที่ที่พระปัจเจกพุทธเจ้า พระองค์หนึ่ง เสด็จมาดับขันธ์นิพพาน” : หลวงปู่ขาว อนาลโยบอก หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ เล่า

8259725_orig.jpg
1407126348-MG0092-o.gif

ถัดขึ้นไปในชั้น 6 ถือเป็นเส้นทางเดินชมวิวชั้นดี มีหลายมุมมองให้ทัศนา ไม่ว่าจะเป็นวิวของวัดที่มองลงจะเห็นเจดีย์พิพิธภัณฑ์อัฐ-บริขารของพระอาจารย์จวนตั้งโดดเด่นอยู่ใกล้ๆกับสระน้ำ วิวทิวทัศน์กันกว้างไกลของพื้นที่รอบข้างที่มองลงไปเห็นอำเภอศรีวิไล สวนยางพารา และพื้นที่ป่าสีเขียวรอบข้างวัด

ใครที่คิดว่าเดินต่อไปไม่ไหวหรือสังขารไม่เอื้ออำนวย เดินขึ้นภูทอกแค่ชั้น 5 นี้ก็พอ (เพราะผมก็ไปถึงแค่ชั้นนี้...5555) ส่วนใครที่แรงยังดีและมีเวลาพอผมขอแนะนำให้ขึ้นไปจนสุดถึงชั้น 7 เพราะไหนๆเมื่อเดินขึ้นมาแล้วควรขึ้นให้ถึงชั้นสูงสุดที่เป็นดังชั้นดาดฟ้าของภูทอก


ภูทอก ตั้งอยู่ในเขตบ้านคำแคน ต.นาสะแบง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ เป็นที่ตั้งของ“วัดภูทอก”หรือ“วัดเจติยาคีรีวิหาร” เนื่องจากสถานที่นี่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว หากแต่อนุโลมเปิดให้ฆราวาสเข้าเยี่ยมชม เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาธรรมะ ดังนั้นผู้ที่มาเที่ยวภูทอกต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของวัดอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็น ห้ามส่งเสียงดัง ห้ามขีดเขียนทุกที่-ทุกจุด ห้ามทิ้งขยะบนเขา แต่งกายด้วยชุดสุภาพ สุภาพสตรีที่นุ่งน้อยห่มน้อยห้ามขึ้น

Sort:  

สวยงามมากคะ

ใช่ครับมีโอกาสจะไปใหม่ให้ถึงชั้น 7 รอบนี้เหนื่อยอุ้มเด็กสองคน แถมมีคนแก่ไปด้วยเลยได้แค่ชั้น 5 ครับ55555

ที่นี่ใช่ถ่ายเรื่องหลวงพี่แจ๊สใช่มั้ยคะ

ไม่ใช่ครับผม หลวงพี่แจ๊สถ่ายทำวัดเฉลิมพระเกียรติ จ.ลำปาง ครับ