สวัสดีเพื่อนชาว Steemit ทุกคนนะครับ
วันนี้ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ของตัวเองว่าในชีวิตของคนเราบางครั้งสิ่งที่เราคิดนั้นก็ไม่ได้ตรงกับความเป็นจริง
เรื่องนี้เริ่มจากรถผมเกิดอาการเลี้ยวอยาก และเวลาสตาตร์เครื่องก็มีเสียงหอน ผมก็เล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนรวมงานฟังเผื่อว่าจะมีใครเคยเจอกับอาการแบบนี้มาแล้วบ้าง มีคนหนึ่งเสนอขึ้นมาว่าน่าจะเป็นที่ปีกนก และหากว่าต้องซ่อม ก็จะหมดเงินหลายบาทเลยทีเดียว หลังจากนั้นก็มีความคิดเห็นสนับสนุนจากอีกหลายคน จนต้องยอมรับว่านาทีนั้นผมเชื่อโดยสนิทใจว่ารถผมเสียจากกรณีดังกล่าวจริง และคิดว่าอาจจะต้องหาเงินหลักหมื่นเตรียมไว้
เวลาผ่านไปหลายวัน ก็ยังไม่ได้เอาเข้าไปซ่อม เพราะว่ามันก็ยังพอที่จะขี่ได้อยู่ จนวันหนึ่งรถเกิดอาการเลี้ยวยากแบบสุดๆ ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาในหัวว่า เริ่มอันตรายแล้ว ต้องเอาไปซ่อม เพราะหากว่าไม่ซ่อม อาจจะเกิดอันตรายได้
สุดท้ายวันนั้นผมก็ตัดสินใจเอารถเข้าไปอู่ที่อยู่ใกล้บ้านและมีคนแนะนำว่าซ่อมดีราคาถูก ผมเล่าอาการที่เกิดขึ้นให้ช่างฟัง เขานิ่งคิดอยู่แป๊บหนึ่งก่อนที่จะ เปิดฝากระโปรงรถ แล้วไปหยิบขวดน้ำมันอะไรสักอย่างมาเติม หลังจากนั้นก็ลองสตาร์ท แล้วลองขับดู ปรากฏว่ารถกับมารถกลับมาเป็นปรกติอีกครั้ง
โดยช่างสรุปให้ฟังว่า มันเกิดจากน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ มันรั่วทำให้น้ำมันแห้ง วิธีการแก้ไขเบื้องต้นก็คือการเช็คและเติมน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์บ่อยๆ ส่วนหากต้องการแก้ไขแบบถาวรก็ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง วันนั้นผมเลือกที่จะซ่อมแบบชั่วคราวก่อน เพราะหากซ่อมแบบถาวรมันจะต้องจอดรถทิ้งเอาไว้หลายวัน จึงคิดว่าเดียวมีเวลาว่างๆค่อยเอาไปจอด
ค่าใช้จ่ายที่ผมเสียไปไหนวันนั้นคือ 150 บาทแถมยังได้น้ำมันมาไว้เติมในยามที่มันลดลงอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ได้สอนผมอยู่สองอย่างนั้นก็คือ
1.อย่าคิดไปเอง ให้ถามจากคนที่มีความรู้ หรืิอเป็นมืออาชีพจริงๆ อย่าเชื่อคนที่พอจะรู้บ้างเพราะว่าบางทีข้อมูลอาจจะไม่ถูกต้อง
2.ต่อไปคงต้องศึกษาเรื่องของการซ่อมรถไว้ติดตัวบ้างแล้ว เมื่อเกิดอาการ เล็กๆน้อยจะได้ซ่อมเองได้
ตั้ม
25 ก.ค. 61
หายไปนานเลยนะคะ
น้ำมันพาวเวอร์หมดไม่ค่อยดีนะคะ ต้องหมั่นเช็ค
แต่อาการของรถตัวเองจะรู้ว่าหมด เพราะพวงมาลัยจะหนักๆ
ไม่เห็นมาโพสต์นานเลยนะคะ ครูตั้ม
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ ข้อนี้เพิ่งรู้เหมือนกัน คงต้องศึกษาอีกเยอะเลย เดี๋ยวจะได้เสียเงินหมื่น เพราะความไม่รู้